แน่นอนว่าเป็นเวลานานมากแล้วที่ประเทศไทยปิดพรมแดนรับนักท่องเที่ยวได้อย่างมีประสิทธิภาพ และไม่มีใครคาดเดาได้ว่าการระบาดของไวรัสโควิด-19 จะคงอยู่นานและส่งผลร้ายแรงต่ออุตสาหกรรมการเดินทางและการท่องเที่ยวระหว่างประเทศ อย่างไรก็ตาม
ดูเหมือนว่าสิ่งต่าง ๆ กำลังเริ่มเกิดขึ้นในขณะนี้ โดยจะมีการหารือเกี่ยวกับการคลายข้อจำกัดการเดินทางในปัจจุบันในสื่อต่างๆ ปัจจุบันประเทศไทยเปิดให้นักท่องเที่ยวด้วยโครงการเที่ยวด้วยกัน แต่ข้อกำหนดด้านเอกสารที่น่าเบื่อและยุ่งยากรวมกับการกักกัน 7, 10 หรือ 15 คืนเมื่อเดินทางมาถึงทำให้นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เลื่อนออกไปและเป็นผลมาจากข้อจำกัด
ด้านการเดินทางของประเทศไทยด้วยมาตรการเที่ยวด้วยกันในสถานที่ยอดนิยมอย่างพัทยา ภูเก็ต และเกาะสมุยนั้นว่างเปล่าอย่างมีประสิทธิภาพ
การรวมสิ่งออกใหม่ต่างๆ เข้าด้วยกันจะบ่งบอกว่าขั้นตอนแรกในการเปิดประเทศอีกครั้งจะเป็นการลดระยะเวลากักกันสำหรับผู้มาเยือนที่สามารถพิสูจน์ได้ว่าพวกเขาได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสแล้ว การดำเนินการนี้จะช่วยลดการกักกันจาก 15 คืนเป็น 7 คืนได้ครึ่งหนึ่ง
อย่างไรก็ตามสำหรับผู้เดินทางหลายๆ คน การกักกัน 7 วันอาจนานเกินไป และจะยังขัดขวางไม่ให้พวกเขาเดินทาง นักท่องเที่ยวไม่เพียงแต่ไม่ต้องการใช้จ่ายครึ่งหนึ่งของวันหยุดของพวกเขาติดอยู่ในห้องพักของโรงแรม แต่ยังไม่ต้องการจ่ายราคาที่สูงขึ้นซึ่งโรงแรม ASQ (มาตรการกักตัว) เรียกเก็บสำหรับข้อกำหนดทางการแพทย์ที่รัฐบาลกำหนด
ดังนั้นมาตรการนี้จึงไม่น่าจะเป็นไปได้ ส่งผลให้การท่องเที่ยวระหว่างประเทศพุ่งสูงขึ้น เนื่องจากมีจุดหมายปลายทางอื่นๆ ที่เปิดให้เดินทางปลอดการกักกันอยู่แล้ว นอกจากนี้ยังมีคนจำนวนมากที่ไม่สามารถรับวัคซีนได้ด้วยเหตุผลทางการแพทย์หรือผู้ที่คัดค้านด้วยเหตุผลส่วนตัว